แหล่งรวมซอฟต์แวร์ และบทความไอที สาระน่ารู้ทั่วไปที่น่าสนใจ

phobia โรคกลัว ความวิตกกังวลที่ควบคุมไม่ได้ แต่รักษาได้ด้วยความเข้าใจ

phobia โรคกลัว ความวิตกกังวลที่ควบคุมไม่ได้ แต่รักษาได้ด้วยความเข้าใจ

ในกลุ่มของโรคทางจิตเวช “โรคกลัว” หรือ Phobia ถือเป็นรูปแบบหนึ่งของความผิดปกติที่พบได้บ่อย โดยมีจุดเด่นคือการกลัวสิ่งใดสิ่งหนึ่งอย่างรุนแรงแม้สิ่งนั้นจะไม่ได้เป็นอันตรายจริง แม้แต่พนักงานประจำ ฟรีแลนซ์ สามารถเป็นกัได้ง่ายๆ ผู้ที่เป็นโรคนี้มักรับรู้ได้ว่าความกลัวของตนเองนั้นเกินจริง แต่กลับไม่สามารถควบคุมได้ ซึ่งอาการนี้ส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวันในหลายด้าน เช่น การเดินทาง การเข้าสังคม หรือการทำงาน โดยสาเหตุของโรคอาจเกิดจากประสบการณ์ในอดีต เช่น เคยถูกสุนัขกัด หรือถูกขังในที่แคบ รวมไปถึงอิทธิพลจากการเลี้ยงดู พันธุกรรม และความผิดปกติของเคมีในสมอง ผู้ป่วยจะมีแนวโน้มหลีกเลี่ยงสิ่งกระตุ้นอย่างชัดเจน และเมื่อหลีกเลี่ยงไม่ได้ก็อาจเกิดอาการตื่นตระหนก เช่น ใจสั่น หายใจเร็ว หรือถึงขั้นเป็นลม ซึ่งแสดงให้เห็นว่าระบบประสาทของร่างกายตอบสนองต่อความกลัวอย่างรุนแรงผิดปกติ

ความแตกต่างระหว่าง “ความกลัวทั่วไป” กับ “โรคกลัว” คือ ความกลัวทั่วไปมักจบลงเมื่อเหตุการณ์ผ่านไปหรือสามารถควบคุมได้ด้วยเหตุผล แต่โรคกลัวนั้นไม่สามารถควบคุมได้ง่าย และจะกลับมาเกิดซ้ำอย่างต่อเนื่องเมื่อเผชิญกับสิ่งกระตุ้นเดิม ๆ ลักษณะเฉพาะที่ชัดเจนของโรคนี้คือ ความกลัวที่ไม่มีเหตุผลรองรับ เช่น กลัวแมงมุมเล็ก ๆ อย่างสุดขีดจนไม่สามารถอยู่ในห้องเดียวกันได้ หรือกลัวเสียงฟ้าร้องมากจนต้องปิดประตูหน้าต่างและร้องไห้ทุกครั้งที่เกิดพายุ ทั้งนี้โรคกลัวแบ่งออกได้หลายประเภท เช่น กลัวสัตว์ (งู, แมลง), กลัวสิ่งแวดล้อม (ฟ้าร้อง, ความสูง), กลัวเลือดหรือการแพทย์ (เข็ม, เลือด), กลัวสถานการณ์ (ลิฟต์, เครื่องบิน) และกลัวสิ่งที่ดูไม่อันตรายอย่างเสียงดังหรือวัตถุแปลก ๆ ซึ่งบางคนอาจมีมากกว่าหนึ่งความกลัวในเวลาเดียวกัน

อาการของโรคกลัวสามารถแสดงออกทั้งทางร่างกายและจิตใจอย่างชัดเจน เช่น ใจเต้นแรง เหงื่อออก มือสั่น หายใจไม่อิ่ม รู้สึกกังวลผิดปกติ หรือมีอารมณ์หวาดระแวงเมื่อเข้าใกล้สิ่งที่กลัว นอกจากนี้ยังพบพฤติกรรมหลีกเลี่ยง เช่น ไม่ยอมขึ้นลิฟต์ เดินเลี่ยงแม้กระทั่งภาพถ่ายของสิ่งที่กลัว หรือไม่ออกจากบ้านเพราะกลัวผู้คน ซึ่งนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนอื่น ๆ เช่น โรคซึมเศร้า การใช้สารเสพติดเพื่อหลีกเลี่ยงความกลัว หรือการตัดขาดจากสังคม จนอาจกระทบความสัมพันธ์ส่วนตัวและหน้าที่การงาน การวินิจฉัยโรคกลัวมักใช้เกณฑ์ที่ชัดเจน เช่น ความกลัวต้องต่อเนื่องอย่างน้อย 6 เดือน และมีผลต่อการดำเนินชีวิตประจำวัน โดยผู้ป่วยมักรู้ว่าตนกลัวเกินเหตุแต่ก็ยังไม่สามารถหยุดความรู้สึกนั้นได้

คุณสมบัติของโรค (โรคกลัว หรือ phobia)

  • เป็นความกลัวที่เกินเหตุ ควบคุมไม่ได้ และรบกวนชีวิตประจำวัน
  • อาการเกิดซ้ำเมื่อเผชิญสิ่งกระตุ้น เช่น เหงื่อออก ใจสั่น กลั้นหายใจ
  • แบ่งเป็นหลายประเภท เช่น กลัวสัตว์ ความสูง เลือด หรือสถานการณ์เฉพาะ
  • รักษาได้ด้วยการบำบัด ปรับพฤติกรรม และการใช้ยาในบางกรณี
  • ผู้ป่วยควรได้รับการสนับสนุน เข้าใจตนเอง และเผชิญหน้ากับความกลัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป

การรักษาโรคกลัวสามารถทำได้หลายแนวทาง โดยวิธีที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดคือการบำบัดทางจิต เช่น Cognitive Behavioral Therapy (CBT) ซึ่งเน้นการปรับความคิดเกี่ยวกับสิ่งที่กลัวและฝึกพฤติกรรมใหม่ ๆ เพื่อลดความตื่นตระหนก นอกจากนี้ยังสามารถใช้เทคนิคการเผชิญหน้าแบบค่อยเป็นค่อยไป (Exposure Therapy) เพื่อให้ผู้ป่วยปรับตัวกับสิ่งที่กลัวได้อย่างปลอดภัย ในบางกรณีแพทย์อาจสั่งยาเพื่อช่วยลดอาการวิตกกังวลเฉียบพลันหรืออาการซึมเศร้าร่วม โดยเฉพาะในช่วงแรกของการรักษา การดูแลตนเองก็เป็นอีกส่วนสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการนอนหลับให้พอ ดื่มน้ำมาก ๆ ฝึกหายใจลึก ๆ หรือเข้าร่วมกลุ่มสนับสนุนก็ช่วยเสริมพลังใจได้ดี รวมถึงการยอมรับตนเองว่าไม่ได้แปลกหรือผิดปกติ แต่กำลังอยู่ในกระบวนการรักษาที่ต้องใช้เวลาและความเข้าใจ