แหล่งรวมซอฟต์แวร์ และบทความไอที สาระน่ารู้ทั่วไปที่น่าสนใจ

Covid Mu โควิดกลายพันธุ์ตัวใหม่ เป็นยังไง แล้วต้องกังวลขนาดไหน

Covid Mu โควิดกลายพันธุ์ตัวใหม่ เป็นยังไง แล้วต้องกังวลขนาดไหน

ในปัจจุบัน องค์การอนามัยโลก (WHO) แบ่งสายพันธุ์โควิดกลายพันธุ์เป็น 2 กลุ่มใหญ่ คือ

  1. โควิดกลายพันธุ์กลุ่ม variant of concern (VOC) คือโควิดสายพันธุ์ใหม่ที่มีความน่ากังวล ได้แก่ โควิดสายพันธุ์อัลฟา​ (อังกฤษ) โควิดสายพันธุ์เบตา (แอฟริกาใต้) โควิดสายพันธุ์แกมมา (บราซิล) และโควิดสายพันธุ์เดลตา (อินเดีย)
  2. โควิดกลายพันธุ์กลุ่ม variant of interest (VOI) คือโควิดสายพันธุ์ใหม่ที่อยู่ในความน่าสนใจ ได้แก่ โควิดสายพันธุ์มิว (โคลอมเบีย) โควิดสายพันธุ์อีตา (เจอครั้งแรกในหลายประเทศ) โควิดสายพันธุ์ไอโอตา (สหรัฐฯ) โควิดสายพันธุ์แคปปา​ (อินเดีย) และโควิดสายพันธุ์แลมบ์ดา (เปรู)

ทำไมโควิดสายพันธุ์มิว (โคลอมเบีย) ถึงอยู่ในความน่าสนใจของ WHO
โควิดสายพันธุ์มิว มีการค้นพบครั้งแรกในประเทศโคลอมเบียช่วงเดือนมกราคม พ.ศ. 2564 โดยได้ชื่อตั้งต้นว่าโควิดสายพันธุ์ B.1.621 และมีการกลายพันธุ์ทั้งหมด 50-60 ตำแหน่ง ซึ่งมีตำแหน่งการกลายพันธุ์ที่สำคัญ 5 ตำแหน่งคือ

P681H ส่งผลให้การกลายพันธุ์ของเชื้อโควิดสายพันธ์ุมิวนั้นเกิดเร็วขึ้น โดยสามารถพบลักษณะการกลายรูปแบบนี้ได้ในโควิดสายพันธุ์อัลฟา
E484K และ K417N ส่งผลให้เชื้อโควิดสายพันธุ์มิวสามารถหลบหลีกระบบภูมิคุ้มกันของเราได้ โดยสามารถพบลักษณะการกลายรูปแบบนี้ได้ในโควิดสายพันธุ์เบตา ที่ทำให้การฉีดวัคซีนโควิด-19 นั้นมีประสิทธิภาพลดลง
R346K และ Y144T ที่ปัจจุบันกำลังอยู่ในขั้นตอนการศึกษาเนื่องจากยังไม่พบโควิดสายพันธุ์ไหนที่กลายพันธุ์ในบริเวณดังกล่าว

โดยมีการค้นพบเชื้อโควิดสายพันธุ์มิวแล้วมากกว่า 40 ประเทศอย่างรวดเร็วในช่วง 8 เดือนที่ผ่านมา คิดเป็นร้อยละ 0.1 ของการติดเชื้อโควิดทั่วโลก แต่ในกรณีของประเทศโคลอมเบีย และประเทศเพื่อนบ้านอย่างชิลี โควิดสายพันธุ์มิวได้กลายเป็นโควิดสายพันธุ์หลักที่พบได้มากถึงประมาณร้อยละ 40 แต่ในขณะนี้ยังไม่มีการตรวจพบเชื้อโควิดสายพันธุ์มิวในประเทศไทย

ด้วยเหตุผลดังกล่าวจึงเป็นสาเหตุที่องค์การอนามัยโลก (WHO) ให้ความสนใจในเชื้อโควิดสายพันธุ์มิวเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะในแง่ของความแตกต่างทางด้านพันธุกรรมที่ส่งผลให้เกิดการติดเชื้อโควิดที่ง่ายมากขึ้น เป็นโรคโควิดที่รุนแรงมากขึ้น และเชื้อโควิดนั้นแพร่กระจายไปในหลายประเทศทั่วโลกมากขึ้น จึงทำให้ต้องมีการเฝ้าระวังเชื้อโควิดสายพันธุ์ใหม่อย่างใกล้ชิดว่าจะเป็นปัญหาสาธารณสุขในวงกว้างหรือไม่

แล้วความน่ากังวลต่อโควิดสายพันธุ์มิว (โคลอมเบีย) มีมากขนาดไหน
อย่างที่กล่าวมาข้างต้นว่าโควิดสายพันธุ์มิวมีการกลายพันธุ์ที่หลายตำแหน่ง อาจส่งผลให้การรักษาโรคโควิดในปัจจุบันนั้นอาจไม่ครอบคลุมหรือดีพอที่จะกำจัดเชื้อโควิดสายพันธุ์มิวนี้ได้ รวมไปถึงในกรณีคนที่มีภูมิคุ้มกันต่อเชื้อโควิดแล้ว ทั้งจากการรับวัคซีนโควิด หรือจากการติดเชื้อโควิดสายพันธุ์อื่น ๆ นั้นก็อาจไม่สามารถป้องกันการติดเชื้อโควิดสายพันธุ์มิวนี้ได้

วิธีการรับมือกับโควิดสายพันธุ์มิว (โคลอมเบีย)
ลำพังแค่การฉีดวัคซีนโควิดครบโดส หรือเคยติดเชื้อโควิดมาก่อนนั้นอาจไม่สามารถรับมือกับโควิดสายพันธุ์มิวได้ดีเท่าไหร่ ดังนั้นทุกคนควรจะปฏิบัติตัวแบบวิถีชีวิตใหม่อย่างเคร่งครัด เช่น

มีการทำความสะอาดมือและพื้นผิวอยู่ตลอด
สวมใส่หน้ากากที่คลุมบริเวณปากและจมูกอย่างมิดชิด
งดไปในที่แออัด หรือที่ระบายอากาศไม่ดี เว้นระยะห่างทางสังคม
งดการดื่มน้ำหรือใช้ช้อนส้อมร่วมกัน
พักผ่อนให้เพียงพอ
ออกกำลังกาย ควบคุมน้ำหนักตัวให้ปกติ
เลี่ยงการรับประทานยาหรือสมุนไพรที่ไม่ทราบฤทธิ์ หรือไม่มีข้อพิสูจน์ชัดเจนว่าช่วยป้องกันหรือรักษาโควิด-19 ได้
หากมีโรคประจำตัวให้รับประทานยาเดิมอย่างสม่ำเสมอ และพบแพทย์ตามนัดผ่านระบบทางไกล
ถ้าหากมีอาการไม่สบายตัว หรือมีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อโควิด-19 ให้แยกตัวจากผู้อื่น หาชุดตรวจแอนติเจนที่ได้ผลเร็ว (Antigen test kit; ATK) หรือไปที่จุดตรวจโรคทางเดินหายใจในสถานพยาบาล หรือจุดให้บริการในชุมชนที่สามารถตรวจสารพันธุกรรมชนิดพีซีอาร์ทันที

ข้อมูลโดย

อ. พญ.รพีพรรณ รัตนวงศ์นรา มอร์ด

สาขาวิชาโรคติดเชื้อ ภาควิชาอายุรศาสตร์

คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล