ภาวะหมดไฟ Burnout เป็นภาวะที่ความเครียดเกินควบคุม ภายใต้สภาวะของความเครียดที่ยืดเยื้อนี้ ร่างกายจะตอบสนองโดยการลดระดับการผลิตคอร์ติซอลให้เหลือระดับต่ำอย่างมากที่สุดหรือเป็นระดับที่ราบเรียบที่ขาดความสมดุล ซึ่งเกิดกับกลุ่ม Freelance พนักงานออฟฟิส หรือพนักงานรับจ้างต่างๆ ที่เรียกว่า ภาวะ “ไฮโปคอร์ติซอล (Hypocortisolism) ที่เป็นการบ่งบอกว่าระบบที่ตอบสนองต่อความเครียดของร่างกายได้ถูกปิดตัวลงแล้วแม้ร่างกายจะยังมีระดับความเครียดสูงอยู่มาก (ร่างกายเลือกที่ตัดการรับรู้ความเครียดที่เกินรับมือแบบปิดสวิชต์ยอมแพ้เพื่อพยายามให้ระบบอื่นๆ ได้รับฟื้นฟูแล้วกลับไปรับมือกับความเครียดได้อีกครั้ง)
เพราะคอร์ติซอลยังสูงเกินไปอย่างต่อเนื่องยาวนานจะมีผลเสียต่อร่างกายที่รุนแรงทั้งอาการอักเสบต่อเซลล์ และความเสี่ยงต่อการเกิดระบบภูมิคุ้มกันโรคเสื่อม สร้างความเสียหายกับระบบประสาทและความจำ ทำลายมวลกล้ามเนื้อ มวลระดูก และเอ็นข้อต่อ มีความเสี่ยงสูงต่อการเกิดกลุ่มโรคมะเร็ง กลุ่มหลอดเลือด หัวใจ และโรค Cushing เป็นต้น โดยภาวะ Burn out หมดไฟจะเกิดจากการผลักดันจากสัญชาตญาณการเอาตัวรอดที่ปรับเปลี่ยให้เข้ากับยุคสมัยใหม่ คือสัญชาตญาณ Fawn (ยอมจำนนอย่างไม่มีข้อแม้) มารับมือกับความเครียดที่มากมายซับซ้อนต่อเนื่องยาวนานในยุคสมัยใหม่นี้
ภาวะหมดไฟ Burn Out และต่อมหมวกไตล้า การมีจุดเริ่มต้นจากการรับมือกับความเครียด เริ่มจากการมีความเครียดสะสมเรื้อรังจนส่งผลกระทบกับร่างกาย แต่ภาวะต่อมหมวกไตล้าจะมีผลกระทบกับทางร่างกายมากกว่าภาวะ Burn out หมดไฟ หากสะสมภาวะความเครียดอย่างต่อเนื่องเป็นระยะเวลายาวนานอาจเสี่ยงต่อโรคที่ร้ายแรงตามมาได้
แนวทางการป้องกันและจัดการ⌟ กับภาวะ Burn out และต่อมหมวกไตล้า
⟳ รับประทานอาหารจากธรรมชาติ (Whole Foods) คือ อาหารที่ปราศจากการปรุงแต่งไม่เป็นอาหารที่ผ่านการแปรรูป ขัดขาว หรือใช้สารสังเคราะห์ทางเคมี รวมถึงไม่ผสมสารกันเสีย ไม่มีน้ำตาลปริมาณที่สูง
⟳ หลีกเลี่ยงการกินอาหารต่อวันที่มีหลายมื้อหรือถี่มากไป ตัดขนมของว่าง เป็นดื่มน้ำสะอาดให้เพียงพอเพื่อให้ร่างกายสดชื่นและอยู่ท้องไปถึงอาหารมื้อต่อไป
⟳ พิจารณาการกินอาหารแบบ IF, Low-Carb Diet, Ketogenic Diet หลักการร่วม คือ เน้นกินอาหารจากธรรมชาติ (Whole Foods) และทำให้ร่างกายลดการพึ่งสารอาหารจำประเภทคาร์โบไฮเดรตเป็นหลักและลดปริมาณน้ำตาลที่สะสมในร่างกาย (HbA1c) ที่จะสามารถสร้างการอักเสบต่อเซลล์อย่างต่อเนื่องยาวนาน รวมถึงการเป็นการปรับภาวะร่างกายเพื่อปิดการทำงานของระบบประสาทซิมพาเทติกเพื่อให้ร่างกายอยู่ในภาวะ (Rest-Digest) ที่ทำให้ร่างกายมีช่วงฟื้นฟูจากความเครียดไปสู่ภาวะผ่อนคลาย สิ่งสำคัญที่คุณต้องตระหนักคือ คุณต้องได้คำแนะนำหรืออยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพของคุณเพื่อประเมินความเหมาะสมก่อนการเริ่มปฎิบัติ
⟳ เน้นการรับประทานอาหารที่มีกากใยสูงจากผัก ผลไม้ ได้รับโปรตีนเพียงพอทั้งโปรตีนจากพืชและจากสัตว์อย่างเพียงพอ โดยเน้นรับประทานอาหารที่มีประโยชน์และมีความหลากหลายเพื่อให้ร่างกายได้สารอาหารที่เพียงพอ
⟳ ออกรับแสงแดดตอนเช้า ในช่วงเวลา 06.00 – 08.00 น.หรือช่วงก่อน 9 โมงเช้า และ แสงแดดช่วงเย็น หลัง 16.00 น. เป็นเวลา 10-20 นาที
⟳ เล่าปัญหาหรือความไม่สบายใจให้คนในครอบครัว เพื่อน หรือผู้ที่เราไว้ใจ รวมถึงเจ้าหน้าที่ผู้ให้บริการให้คำปรึกษา แนะนำทางด้านสุขภาพจิต
⟳ นัดสังสรรค์กับครอบครัวหรือเพื่อน หรือชวนกันท่องเที่ยวในสถานที่ธรรมชาติหรือในสถานที่แปลกใหม่